ระบบฐานข้อมูลในปัจจุบัน จะนิยมใช้ฐานข้อมูลแบบสัมพันธ์
(Relational Database) โครงสร้างพื้นฐานของฐานข้อมูลประเภทนี้จะมีดังต่อไปนี้
ตาราง(Table)
จะเป็นที่เก็บข้อมูลของฐานข้อมูล จะมีลักษณะเป็นตาราง 2 มิติ
โดยจะถือว่าข้อมูลในแนวนอน(แถว)เป็นข้อมูลหนึ่งชุด เรียกว่าเรคคอร์ด (Record) ซึ่งข้อมูลในแต่ละชุดจะประกอบด้วยข้อมูลต่างๆ ตามแนวตั้ง(คอลัมน์) ซึ่ง
เรียกว่า ฟิลด์ (Filed)
อินเด็กซ์ (Index)
อินเด็กซ์ จะเป็นฟิลด์ที่ใช้ช่วยในการค้นหาข้อมูล
การทำงานของฟิลด์ที่เป็นอินเด็กซ์ก็คือ จะมีการจัดเรียงลำดับ
โดยอัตโนมัติโดยอาศัยฟิลด์อินเด็กซ์เป็นตัวอ้างอิง การที่มีอินเด็กซ์ก็หมายความว่า
ข้อมูลได้มีการจัดเรียงไว้แล้ว ยกตัวอย่างเช่นสมุดโทรศัพท์
ถ้าเราต้องการต้องการหาชื่อคนที่ขึ้นต้นด้วยตัว อ.อ่าง
เราก็สามารถไปเปิดค้นได้จากบริเวณท้ายเล่มได้เลย
โดยไม่ต้องดูไปทีละหน้าว่ามีชื่อที่ขึ้นต้นด้วย อ.อ่างอยู่หรือไม่
ไพรมารี่ย์คีย์ (Primary Key)
ไพรมารี่ย์คีย์จะเป็นฟิลด์ที่สามารถเป็นตัวแทนเรคคอร์ดทั้งหมด
ค่าไพรมารี่ย์คีย์จะต้องไม่ซ้ำกัน เมื่อระบุค่าไพรมารี่ย์คีย์แล้ว
จะต้องสามารถอ้างอิงถึงฟิลด์อื่นๆได้เลย ยกตัวอย่างเช่น จากรูปที่1 เมื่อเราระบุสินค้ารหัส 0001 ก็จะหมายถึง
พัดลมที่ราคา900 บาทได้เลย
การเก็บข้อมูลแบบสร้างความสัมพันธ์
ฐานข้อมูลแบบสัมพันธ์จะมีจุดเด่นที่
พยายามแยกข้อมูลออกมาเป็นชุดๆ (เป็นตารางอิสระ)
แล้วจึงกำหนดความสัมพันธ์ระหว่างตาราง(ข้อมูล)ขึ้น
เพื่อเก็บข้อมูลของสิ่งที่เกิดขึ้น
การจัดเก็บลักษณะนี้จะช่วยลดความซ้ำซ้อนของข้อมูล
และจะช่วยให้การแก้ไขเป็นไปอย่างสะดวกและลดความผิดพลาด
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น